ข่าวกีฬา สองสโมสรยักษ์ใหญ่จากเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ผลการแข่งขันที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในการลงเตะถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ข่าวกีฬา โดย “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ลงเตะก่อน พลาดท่าบุกไปแพ้ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ 1-2 ทว่า “สิงห์บลูส์” เชลซี ฟอร์มดุต่อเนื่อง เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ อัด แรนส์ สบายเท้า 3-0 พร้อมกับสถิติสุดโหดของ เอดูอาร์ เมนดี้ และนี่คือเกร็ดที่น่าสนใจจากเกมทั้งสองสนาม
อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
0 – บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพ “ปีศาจแดง” สร้างโอกาสไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวในเกมนี้
1 – นี่คือชัยชนะเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์
1 – ขณะที่ เอดิน วิสช่า ดาวเตะ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ กลายเป็นนักเตะคนแรก นับตั้งแต่ อาร์เยน ร็อบเบน (บาเยิร์น มิวนิค) เมื่อเดือนเมษายน ปี 2014 ที่ทำทั้งประตูและแอสซิสต์ภายในเกมเดียวใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก
3 – แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้รวดเกมยุโรป 3 นัดหลังสุด ที่บุกไปเยือนสโมสรตุรกี
6 – ราฟาเอล ดา ซิลวา แบ็กขวา อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ซึ่งเป็นเด็กเก่าของ “ปีศาจแดง” ชนะแท็กเกิ้ลถึง 6 ครั้ง มากสุดในสนามเกมนี้
10 – การปราชัยครั้งนี้ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หยุดสถิติชนะรวดเกมเยือนรวมทุกรายการไว้ที่ 10 นัดติด ซึ่งถือเป็นสถิติที่ยาวนานสุดในประวัติศาสตร์สโมสร
21 – ตลอดทั้งเกม อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ มีสถิติชนะแท็กเกิ้ลถึง 21 ครั้ง ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด แค่ 10 หน
19 – นอกจากนี้ยังเป็นการพ่ายแพ้เกมเยือนครั้งแรกของ “ปีศาจแดง” ในรอบ 19 เกมรวมทุกรายการอีกด้วย หรือนับตั้งแต่เกม พรีเมียร์ลีก นัดที่พวกเขาบุกไปพ่าย ลิเวอร์พูล 0-2 เมื่้อช่วงเดือนมกราคม
35 – ด้วยวัย 35 ปี กับ 163 วัน ทำให้ เดมบ้า บา หัวหอกตัวเก๋าชาวเซเนกัลของ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ กลายเป็นนักเตะแอฟริกันอายุมากสุดอันดับสอง ที่ทำประตูได้ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อจาก ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่ทำประตูสุดท้ายของตัวเองในรายการนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2014 ในวัย 36 ปี กับ 259 วัน
เชลซี 3-0 แรนส์
0 – เชลซี ยังไม่เสียประตูในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ ซึ่งมีแค่ ลิเวอร์พูล อีกทีมที่ทำได้
1 – นี่คือครั้งแรกที่สามสโมสรจากฝรั่งเศส (แรนส์, โอลิมปิก มาร์กเซย และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) พร้อมใจกันแพ้เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายในสัปดาห์เดียวกัน นับตั้งแต่ที่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2011 (ตอนนั้นเป็น ลีลล์, โอลิมปิก ลียง และ โอลิมปิก มาร์กเซย)
2 – ติโม แวร์เนอร์ หัวหอก “สิงห์บลูส์” กลายเป็นนักเตะชาวเยอรมันคนแรก นับตั้งแต่ โลธ่าร์ มัทเธอุส (สมัยเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค นัดเจอ เรอัล มาดริด) เมื่อเดือนเมษายน ปี 1987 ที่ทำประตูจากจุดโทษ 2 ลูกภายในเกมเดียวถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก / ยูโรเปี้ยน คัพ
3 – แทมมี่ อับราฮัม กองหน้าร่างโย่ง เชลซี ทำประตูฐานะนักเตะตัวจริงในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ 3 นัดติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นนักเตะ “สิงห์บลูส์” คนแรกที่ทำได้ นับตั้งแต่ วิลเลี่ยน เมื่อปี 2015 และถือเป็นนักเตะชาวอังกฤษคนแรกที่ทำได้แบบนี้ นับตั้งแต่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เมื่อปี 2008
5 – เชลซี เก็บคลีนชีตมา 5 เกมติดรวมทุกรายการ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำได้แบบนี้นับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2010
6 – ด้าน เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูคนใหม่ “สิงห์บลูส์” เก็บคลีนชีตได้ 6 เกมติดรวมทุกรายการ และเป็นการเก็บคลีนชีตได้ 6 จาก 7 เกมที่ลงเฝ้าเสาให้กับทีม ขณะที่ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า อดีตโกลมือหนึ่งของทีม เก็บคลีนชีตติดต่อกันเต็มที่ได้แค่ 3 เกมเท่านั้น จากการลงเฝ้าให้ เชลซี ทั้งหมด 98 นัด
